วันเสาร์

รวยอสังหา บทที่ 12 เอกสารสิทธิที่ดิน 7 ประเภท

อ่านแล้วรวย  วันนี้จะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ "เอกสารสิทธิ์"ต่างๆ  เพื่อสร้างความร่ำรวยกับอสังหาริมทรัพย์
เอกสารสิทธประเภทต่าง ๆ  
»» สค1 | นส.2 | นส.3 นส.3ก นส.3 ข | นส.5 | โฉนดที่ดิน 

แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑)             
       แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) คือใบแจ้งการครอบครองที่ดินเป็นหลักฐานว่าผู้ครอบครองเป็นผู้แจ้งว่า ตนครอบครองที่ดินแปลงใดอยู่ (แต่ปัจจุบันไม่มีการแจ้ง ส.ค.๑ อีกแล้ว) ส.ค.๑ ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิที่ดิน เพราะไม่ใช่หลักฐานที่ทางราชการออกให้เพียงแต่เป็นการแจ้งการครอบครองที่ดินของราษฎรเท่านั้น ดังนั้นตามกฎหมาย ที่ดินที่มี ส.ค.๑ จึงทำการโอนกันได้เพียงแต่แสดงเจตนาสละการครอบครองและไม่ยึดถือพร้อมส่งมอบให้ผู้รับโอนไปเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นการโอนกันโดยชอบแล้ว ผู้มี ส.ค.๑ มีสิทธินำมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) ได้ 2 กรณี คือ
                    กรณีที่ ๑ นำมาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ กรณีนี้ทางราชการจะเป็นผู้ออกให้เป็นท้องที่ไป โดยจะมีการประกาศให้ทราบก่อนล่วงหน้า
                    กรณีที่ ๒ นำมาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) เฉพาะราย คือกรณีที่เจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ก็ให้ไปยืนคำขอ ณ สำนักงานที่ดินที่ที่ดินตั้งอยู่เฉพาะการออกโฉนดที่ดินนี้ จะออกได้ในพื้นที่ที่ได้สร้างระวางแผนที่สำหรับออกโฉนดที่ดินไว้แล้วเท่านั้น

วันพฤหัสบดี

รวยด้วยอสังหา บทที่ 11: การจำนองที่ดิน

                 อ่านแล้วรวย  รวยด้วยอสังหาริมทรัพย์
การจำนองอสังหาริมทรัพย์ ( ที่ดิน )
---------------การจำนองคือ การที่บุคคลหนึ่ง เรียกว่า " ผู้จำนอง " เอาอสังหาริมทรัพย์ของตนเช่นที่ดิน หรือ ทรัพย์ทื่กฏหมายอนุญาตให้จำนองไปจดทะเบียนไว้กับอีกบุคคลหนึ่ง เรียกว่า" ผู้รับจำนอง " เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ ทั้งนี้โดยผู้จำนองไม่ต้องส่งมอบ ที่ดิน หรือ ทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่ผู้รับจำนอง เช่น เมื่อท่านมีที่ดินเปล่า หนึ่งแปลง ต้องการกู้เงินจากธนาคาร มาเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ท่านไปขอกู้เงินกับธนาคาร ๆ เมื่อธนาคารอนุมัติเงินกู้ ธนาคารจะให้ท่านจำนอง ที่ดินแปลงดังกล่าวไว้กับธนาคาร ๆ เป็น " ผู้รับจำนอง " เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ ถ้าท่านไม่สามารถ ชำระหนี้ให้แก่ธนาคารได้ ธนาคารก็จะฟ้องร้องบังคับ หลักประกัน ต่อไป โดยการจำนอง ต้องทำที่สำนักงานที่ดินเท่านั้น ถึงจะถูกต้องตามกฏหมาย โดยจ่ายค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าจำนองแต่ไม่เกิน 200,000 บาท หรือให้อัตรา 0.5 % อย่างสูงไม่เกิน 100,000 บาท ในกรณีจำนองสำหรับการให้สินเชื่อเพื่อการเกษตร ให้กับสำนักงานที่ดินเป็นค่าธรรมเนียม การจำนองมี 2 ลักษณะคือ
---------------1. การจำนอง เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของตนเอง
---------------2. การจำนอง เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของบุคคลอื่น
---------------การจำนอง กฏหมายกำหนดแบบไว้ว่า จะต้องทำเป็นหนังสือ และ จดทะเบียน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ถ้าการจำนอง ไม่ทำตามแบบการจำนองย่อมเป็นโมฆะ โดยสัญญาการจำนอง ควรจะระบุให้ชัดเจน เกี่ยวกับมูลค่าเช่น กู้เงิน 1,000,000 บาท โดยนำทีดิน มูลค่า 2,000,000 บาท มาจำนอง สามารถระบุให้ชัดเจนว่า การจำนองนี้เป็นหลักประกันหนี้ เพียง 1,000,000 บาท เท่านั้น ส่วนการฟ้องร้องบังคับจำนองนั้น ผู้รับจำนองอาจ บังคับเอาหลักทรัพย์จำนอง เป็นสิทธิของตนได้ แต่ต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้คือ
-----1. ลูกหนี้ได้ขาดส่งดอกเบี้ย มาเป็นเวลาถึง 5 ปี
-----2. ผู้จำนอง มิได้แสดงให้เป็นที่พอใจแก่ศาลว่า ราคาทรัพย์สินนั้น ท่วมจำนวนเงินที่ค้างชำะอยู่
-----3. ไม่มีการจำนองรายอื่น หรือ บุริมสิทธิอื่นได้ จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอันเดียวกันนี้เอง
--------เมื่อมีการบังคับขายทอดตลาด ทรัพย์สินที่จำนอง เงินได้ที่จากการขายทอดตลาด ภายหลังหักค่าฤชา ธรรมเนียม แล้วเหลือเป็นจำนวนเท่าใด จะต้องจัดสรรชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ถ้าเจ้าหน้าได้รับครบถ้วนแล้ว เหลือเงินเท่าใด ก็ต้องคืนให้แก่ผู้จำนอง แต่ถ้าขายแล้วเงินไม่พอชำระหนี้ ลูกหนี้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบในเงินนั้นอีก เว้นเสียจากมีช้อตกลงในสัญญาจำนอง ว่าถ้าเงินที่ขายทอดตลาดไม่เพียงพอเจ้าหนี้สามารถเรียกร้องส่วนที่ขาดได้ โดยเหตุที่กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ สินที่จำนอง ยังคงเป็นของผู้จำนอง ดังนั้นผู้จำนองอาจจำหน่ายทรัพย์สินได้ แต่ทั้งนี้ผู้รับโอนทรัพย์สิน ต้องรับภาระจำนองที่ติดกับทรัพย์สินนั้นด้วย

วันจันทร์

รวยด้วยอสังหา บทที่ 10 ค่าธรรมเนียม การโอนที่ดิน ค่าภาษี ที่ดิน ที่เกิดขึ้น ณ สำนักงานที่ดิน

             อ่านแล้วรวย  สำหรับ "รวยด้วยอสังหา" ที่พยายามจะแนะนำเรื่องต่างๆที่จำเป็นสำหรับความ รวย ในอสังหา  วันนี้ขอรวบรวมเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อ-ขาย/โอนที่ดิน
ค่าใช้จ่ายที่เกิด ณ สำนักงานที่ดิน กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ตรวจสอบราคาประเมินที่ดิน )
                  2.ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม ( ค่าโอน )    
 2 % จากราคาประเมิน หรือราคาขาย แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
                 3.ค่าจดจำนอง ( กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน )     
 1% ของมูลค่าที่จำนอง
                4.ค่าอากรแสตมป์ (ชำระอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง อากรแสตมป์ หรือธุรกิจเฉพาะ) 
 200 บาท ติดอากรแสตมป์ 1 บาท(0.50%) ตามราคาซื้อขายแต่ ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน
                5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ไม่ต้องชำระหากถือครองเกิน 5 ปี )
3.3% ของราคาซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน
ค่าใช้จ่ายที่เกิด ณ สำนักงานที่ดิน กรณีเป็นนิติบุคคล
                1.ภาษีเงินได้นิติบุคคล ( หัก ณ ที่จ่าย )
1% ของราคาซื้อขาย ( ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน )
                2.ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม ( ค่าโอน )
2 % จากราคาประเมิน หรือราคาขาย แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
                3.ค่าจดจำนอง ( กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน )
1% ของมูลค่าที่จำนอง
                4.ค่าอากรแสตมป์ (ชำระอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง อากรแสตมป์ หรือธุรกิจเฉพาะ)
200 บาท ติดอากรแสตมป์ 1 บาท(0.50%) ตามราคาซื้อขายแต่ ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน
                5.ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ไม่ต้องชำระหากถือครองเกิน 5 ปี )
3.3% ของราคาซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน

รายละเอียด เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม

เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี มีอยู่หลายกรณีที่สำคัญๆ ได้แก่ การยกเว้นตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร การยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 การยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับต่างๆ เป็นต้น  ซี่งมีดังนี้ครับ

เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์มีดังนี้
1.  เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้
          (1) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
          (2) อสังหาริมทรัพย์ตาม (1) พร้อมที่ดิน
          (3) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด


1.  เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ดังต่อไปนี้
----------(1) บ้าน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ซึ่งโดยปกติใช้ประโยชน์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
----------(2) อสังหาริมทรัพย์ตาม (1) พร้อมที่ดิน
----------(3) ห้องชุดสำหรับการอยู่อาศัยในอาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
เฉพาะกรณีที่อสังหาริมทรัพย์ตามข้อ 1,2,3 ได้จดทะเบียนการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ภายในปี พ.ศ.2540 และขายทรัพย์สินนั้น ภายหลังจด
ทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี (ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2550 ตามกฏกระทรวงฉบับที่ 126 พ.ศ.2509 ออกตามความในประมวลรัษฏากร ว่าด้วยการ
ยกเว้นรัษฏากร ข้อ 2(41) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฏกระทรวงฉบับที่ 206พ.ศ.2540


2.การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ขายภายหลังได้มา เกินกว่า 5 ปีได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ( 3.3%) เว้นแต่จะเป็นการขายของผู้ได้รับอนุญาต
จัดสรรที่ดินตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 หรือการขายอสังหาริมทรัพย์พร้อมที่ดิน ที่เป็นการสร้างเพื่อขาย หรืออสังหาริมทรัพย์
ที่แบ่งไว้เพื่อขาย โดยได้จัดทำ ถนน หรือ สาธารณูปโภคอื่นๆ หรือ ให้ค่ำมั่นว่าจะจัดให้มีสิ่งดังกล่าว และการขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้ขาย
เป็นนิติบุคคล มีไว้ในการประกอบกิจการ จึงจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ


3. เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจากการ ให้โดยเสน่หาที่ตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาล สุขาภิบาล หรือเมืองพัทยาหรือการปกครองท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมาย
จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เฉพาะเงินได้จากการขายในส่วนที่ไม่เกิน 200,000 บาท ตลอดปีภาษีนั้น


4. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของตนโดยไม่มีค่าตอบแทน บุตรชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมด้วย


5. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มี ค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา


6. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มี ค่าตอบแทนให้แก่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมนาชินีนาถ


7. เงินค่าทดแทนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ เฉพาะที่ดินที่ต้องเวนคืน และอสังหาริมทรัพย์อื่นบนที่ดินที่ต้องเวนคืน


8. เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืม สำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัยโดยจำนองอาคารที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น ตามจำนวน ที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด ทั้งนี้เฉพาะที่จ่ายให้แก่
       (1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
       (2) กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
       (3) นิติบุคคลเฉพาะกิจซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจ เพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่นิติบุคคลเฉพาะกิจ ดังกล่าว
เข้ารับช่วงสิทธิเป็นเจ้าหนี้เงินกู้แทนกองทุนรวมตาม (1) หรือ (2) ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์หรือนายจ้าง


9. เงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ หรือนายจ้างสำหรับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อเช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัยโดยจำนองอาคาร
ที่ซื้อหรือสร้างเป็นประกันการกู้ยืมนั้น ซึ่งรวมถึงอาคารพร้อมที่ดินด้วย เฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด


10. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี


11. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการเขื่อนคลองท่าด่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครนายก


12. ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการขาย แลกเปลี่ยน ให้ โอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มิใช่บริษัท
หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่ถือว่าเป็นการขายตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร


13. การให้ การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทน


14. การแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์กับส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มิใช่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเฉพาะในกรณีที่ส่วนราชการ
หรือรัฐวิสาหกิจนั้นมิได้มีการจ่ายค่าตอบแทนเป็นอย่างอื่นนอกจากอสังหาริมทรัพย์ที่แลกเปลี่ยนนั้น


15. ผู้มีเงินได้ที่ได้รับเงินได้พึงประเมินจากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 4 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์
ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 ซึ่งได้ถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (5) แห่งประมวลรัษฎากร และได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว


16. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชน และการบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษา
เอกชน พ.ศ.2546 ทั้งนี้ สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2546 เป็นต้นไป
17. เงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่สภากาชาดไทย

วันเสาร์

รวยอสังหา บทที่ 9 สัญญา เรื่องหน้ารู้ในการซื้อขายที่ดิน

                 อ่านแล้วรวย   สัญญาประเภทหนึ่งที่นักธุรกิจ ต้องใช้งานอยู่เสมอคือสัญญาซื้อขาย โดยความเข้าใจของคนโดยทั่วไป สัญญาซื้อขายก็คือสัญญาซื้อขายมีของ มีสินค้าที่มีคนอยากขายและมีคนอยากซื้อ ถ้าตกลงราคาและเงื่อนไขอื่นๆ กันได้ นั่นก็เป็นสัญญาซื้อขายแล้ว! ความเข้าใจดังกล่าวก็ไม่ผิด แต่ถ้าจะลงรายละเอียดกันในเรื่องของ “สัญญา” สำหรับนักกฎหมายแล้ว เอกสารที่เรียกกันว่าเป็น“สัญญาซื้อขาย” นั้น
สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก
ซึ่งสัญญาแต่ละประเภทจะส่งผลในทางกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป

- สัญญาซื้อขายประเภทแรก คือ  "สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด" หมายถึง สัญญาซื้อขายที่มีการตกลงเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการ ซื้อขายครั้งนั้นไว้อย่างครบถ้วนแล้ว เช่น ทรัพย์สินที่จะซื้อขาย ราคา วันกำหนดส่งของ เมื่อมีการลงนามในสัญญานั้นหรือเมื่อมีการทำสัญญาแล้ว การซื้อขายจะสำเร็จเสร็จบริบูรณ์ไปทันที คู่สัญญาไม่ต้องไปทำการตกลงอะไรเพิ่มเติมหรือไปทำสัญญาอะไรกันอีกแล้ว ตัวอย่างของสัญญาประเภทนี้ก็เช่น สัญญาซื้อขายในการประกอบธุรกิจทั่วไป ผล ทางกฎหมายของสัญญาประเภทนี้ ก็คือเมื่อลงนามแล้ว ก็จะมีผลผูกพันตามกฎหมาย แม้ว่าในสัญญาอาจกำหนดให้มีการส่งมอบทรัพย์สินที่ซื้อขายหรือชำระราคาในภาย หลัง หรือเป็นงวดๆก็ตาม ก็มีผลผูกพันคือ ถ้าคู่สัญญาฝ่ายใดจะบิดพลิ้วขึ้นมา อีกฝ่ายก็สามารถฟ้องร้องบังคับให้ปฏิบัติตามสัญญานั้นได้


- สัญญาซื้อขายประเภทที่สองคือ "สัญญาจะซื้อจะขาย"
สัญญา ประเภทนี้จะพบในการตกลงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโด และสังหาริมทรัพย์แบบพิเศษ เช่น เรือ แพ หรือสัตว์พาหนะ ถึงแม้คู่สัญญาจะลงนามในสัญญากันแล้ว และบางครั้งอาจ เรียกว่าเป็น “สัญญาซื้อขาย” ด้วยซ้ำไป แต่ถ้าข้อความในสัญญาดังกล่าวเขียนไว้ว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมีเจตนาที่จะไปจดทะเบียน สัญญาซื้อขายนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กรณีเช่นนี้ในทางกฎหมายจะถือเป็นเพียง“สัญญาจะซื้อจะขาย”ถามว่าทำไมต้องมี สัญญาประเภทนี้ ตอบได้ว่า เพราะกฎหมายบังคับไว้ว่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และ สังหาริมทรัพย์พิเศษบางประเภทจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ มีการไปจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดินหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ถ้าทำการซื้อขายที่ดินกันตามอำเภอใจ โดยไม่ไปจดทะเบียนต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ให้ถูกต้อง การซื้อขายนั้นจะเป็น “โมฆะ” ด้วยเหตุนี้ เวลาต้องการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ นักกฎหมายถึงจะแนะนำให้ทำ “สัญญาจะ ซื้อจะขาย” เพื่อให้คู่สัญญาต้องผูกพันกันไว้ขั้นหนึ่งก่อนที่จะไปทำการจดทะเบียนโอน ทรัพย์สินเพื่อให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด แม้จะเรียกว่าเป็น “สัญญาจะซื้อจะขาย” แต่ก็มีผลทางกฎหมายเป็นสัญญา จึงใช้สิทธิฟ้องร้องบังคับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งได้ โปรดระวังด้วยว่า ถ้าท่านซื้อหรือขายที่ดิน บ้าน หรือคอนโด แต่ทำสัญญาเป็นแบบ “สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด” โดยไม่มีข้อตกลงอย่างชัดเจนว่า จะไปจดทะเบียนการซื้อขายกับพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องอีกที สัญญาฉบับนั้นจะกลายเป็นสัญญาที่โมฆะ คือไม่มีผลทางกฎหมาย ทันที!


- สัญญาประเภทสุดท้าย คือ "คำมั่นว่าจะซื้อขาย" “คำมั่น” หมาย ถึง การที่คนๆ หนึ่งผูกพันตนว่าจะต้องปฏิบัติตาม “คำมั่น” หรือ สัญญาที่ให้ไว้ เช่น นายแดงได้ขายที่ดินให้นายดำโดยมีข้อตกลงว่า นายแดงมีสิทธิที่จะซื้อที่ดินแปลงนั้นคืนจากนายดำได้ภายในเวลา 1 ปี ศาลฎีกาได้ตัดสินว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นคำมั่นของนายดำว่า จะขายที่ดินคืนให้นายแดง ดังนั้น ถ้านายดำบิดพริ้วไม่ยอมขายที่ดินแปลงนั้นคืนให้ นายแดงก็สามารถฟ้องร้องบังคับซื้อที่ดินแปลงนั้นได้ ในเรื่องของ “คำมั่น” แม้จะเป็นการให้สัญญาเพียงฝ่ายเดียว แต่ผู้ได้รับ “คำมั่น” ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของคำมั่น มิฉะนั้น “คำมั่น” ที่ไม่ได้รับการตอบสนองก็อาจสิ้นสภาพไปได้ เช่น กรณีตัวอย่างข้างต้น ถ้าเวลาผ่านไป 2 ปีหลังการซื้อขายแล้ว นายแดงเพิ่งมา แจ้งกับนายดำว่าตนอยากซื้อที่ดินคืน กรณีแบบนี้ถือว่า “คำมั่น” ของนายดำที่ให้ไว้ได้สิ้นสุดไปแล้ว เพราะ “คำมั่น” ของนายดำมีเงื่อนไข อยู่ว่าจะขายคืนให้ “ภายในเวลา 1 ปี” เมื่อเกินเวลาไปแล้ว “คำมั่น” ก็สิ้นสุดลงทันที
จาก ประสบการณ์ของ อ่านแล้วรวย บางครั้ง คนที่เข้าทำสัญญาไปยึดติดกับ “ชื่อ” ของสัญญาจนละเลยสาระสำคัญภายใน ทั้งๆที่ใน ทางกฎหมายนั้น หัวใจสำคัญของสัญญาอยู่ที่เนื้อหาสาระข้างในไม่ได้อยู่ที่ชื่อ ดังนั้น ก่อนที่จะสรุปว่า สัญญาฉบับที่ท่านกำลังจะลงนาม เป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือเป็นสัญญาจะ ซื้อจะขาย หรือเป็นแค่คำมั่น โปรดตรวจสอบเนื้อหาสาระของสัญญาภายในเสียก่อน เพื่อความ มั่นใจและความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อที่ท่านจะได้รักษาสิทธิของตัวเองได้อย่างครบถ้วนด้วย

วันศุกร์

รวยด้วยอสังหา บทที่ 8 :คุมผู้รับเหมาให้ดี มี 10 ที่ ที่มักหมกเม็ด

               อ่านแล้วรวย  คงเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเจ้าของบ้านผู้โชคร้ายที่ไปพบผู้รับเหมาที่ไม่ซื่อตรง และไม่มีความรับผิดชอบ  ผู้รับเหมาเหล่านี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้วงการงานรับเหมาก่อสร้างแล้ว ยังสร้างภาระและความสูญเสียให้กับเจ้าของบ้านที่ต้องตามสะสางแก้ไขงานที่ผู้รับเหมาทำหมกเม็ดเอาไว้  นอกจากนี้ยังอาจเกิดเป็นปัญหาลูกโซ่ สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องโดยที่เจ้าของบ้านคาดไม่ถึง เรามีจุดสังเกตให้คุณผู้อ่านทั้งหลายที่กำลังคิดจะทำบ้านหรือปรับปรุงบ้านได้รู้ไว้ เผื่อเอาไปประยุกต์ใช้ได้ครับ

เม็ดที่ 1
เริ่มจากงานเอกสารสัญญาที่ส่อเจตนาทุจริต อาทิ แผนการเบิกเงินในแต่ละงวดมีจำนวนสูงกว่าปริมาณงานที่ทำจริงอยู่มาก  เพราะเมื่อผู้รับเหมาที่เจตนาไม่ดีเหล่านี้สบโอกาสเบิกเงินได้จนเป็นที่พอใจแล้ว ก็มักจะละทิ้งงานไปเฉยๆ  ดังนั้นเจ้าของบ้านควรตรวจสอบสัดส่วนของเงินแต่ละงวดในเอกสารสัญญาให้ถี่ถ้วนด้วย

เม็ดที่ 2  สำหรับงานก่อสร้างบนที่ดินว่างเปล่าหลายๆแปลง มักเริ่มด้วยการถมดิน ดินที่เหมาะกับงานถมต้องเป็นดินเหนียวซึ่งจะถมในชั้นแรก  ตามด้วยการถมหน้าดินในระดับ  1-2  เมตร เพื่อให้ปลูกต้นไม้หรือหญ้าได้  ในขั้นตอนนี้ผู้รับเหมาที่ชอบซิกแซ็กมักจะหาเศษวัสดุ อิฐหัก และขี้ปูนมาถมเป็นชั้นแรกแทนดินเหนียว  ผลที่ตามมาคือการทรุดตัวของผิวดิน และสิ่งก่อสร้างที่วางบนดิน   เช่น  พื้นโรงรถ  ภายหลังเมื่ออยู่อาศัยไปได้ประมาณ  1  ปี

เม็ดที่ 3
สิ่งสำคัญอันดับแรกๆของการก่อสร้างคือ  การตอกเสาเข็ม  เพราะเป็นส่วนของฐานรากที่หยั่งลึกลงไปในดิน  หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็ยากที่จะสืบค้นและซ่อมแซม   ดังนั้นขณะที่ตอกเสาเข็มจึงจำเป็นต้องมีโฟร์แมนควบคุมงาน และทำบันทึกผลการตอกเสาเข็มด้วยข้อมูลจริง   ผู้รับเหมาที่ละเลยขั้นตอนนี้ แล้วเกิดความผิดพลาดขึ้น  จะส่งผลต่อการทรุดตัวของอาคารในระยะยาวอย่างแน่นอน

เม็ดที่ 4
งานก่อสร้างชนิดต่อเติมอาคารที่เจ้าของบ้านคิดราคาถูกๆไว้ก่อน ก็อาจจะเจอผู้รับเหมาประเภทฉาบฉวย  ซึ่งใช้วิธีการก่อสร้างแบบผิดๆ เช่น การสร้างส่วนต่อเติมเข้าไปเชื่อมติดกับอาคารเดิมด้วยเสาเข็มสั้น  เมื่อเกิดการทรุดตัวที่แตกต่างกันระหว่างอาคารเดิมกับส่วนที่ต่อเติมในภายหลัง โครงสร้างเก่าและโครงสร้างใหม่ก็จะเกิดการแยกตัว  การทรุดตัวก็เป็นอีกเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร  แต่ถ้าสร้างให้ถูกวิธีก็สามารถลดความรุนแรง หรือเมื่อทรุดแล้วไม่ทำให้บ้านเสียหายมาก ซึ่งวิศวกรจะเป็นผู้คำนวณความยาวและจำนวนของเสาเข็มที่ควรใช้  ขณะที่สถาปนิกจะออกแบบจุดเชื่อมต่อที่ไม่ติดตาย เคลื่อนตัวได้เล็กน้อย และกันน้ำได้

เม็ดที่  5 

วันพุธ

รวยด้วยแฟรนไชส์อสังหา 3


"แฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์ สัญชาติไทยแท้...รายแรกของประเทศ"

ลักษณะกิจการตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
ชื่อธุรกิจ (ไทย)เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์
ชื่อธุรกิจ (อังกฤษ)Realty World Alliance
ความเป็นมา
บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด ดำเนินธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ด้วยประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการมากกว่า 10ปี เริ่มก่อตั้งในปี 2537 สร้างชื่อเสียงและพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมั่นใจ และมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้วยการแบ่งปันความสำเร็จ

โดยกลยุทธ์แห่งชัยชนะร่วมกัน เพื่อพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเต็มรูปแบบ
ลักษณะสินค้า
และบริการ
ธุรกิจบริการ ซื้อ-ขาย-เช่า-จำนอง อสังหาริมทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยีฐานข้อมูลอันทันสมัยและเครือข่ายครอบคลุม กรุงเทพฯ ปริมณฑล และทั่วประเทศ
ธุรกิจศูนย์บริการรับฝากขายอสังหาริมทรัพย์เริ่มก่อตั้งในปี 2537 เรียลตี้เวิลด์แฟรนไชส์ชูจุดเด่นแฟรนไชส์อสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทยแท้รายแรกของประเทศด้วยกลยุทธ์แบ่งปันควาสำเร็จด้านวิชาชีพตัวแทนนายหน้าที่สั่งสมประสบการณ์อย่างดีมากกว่า 9 ปี
ประเทศThailand  Thailand
ค่าแฟรนไชส์600,000 บาท
จำนวนสาขา17 สาขา
รายละเอียดสาขา-
นโยบาย
การขยายสาขา
ขายแฟรนไชส์
การลงทุน**ระยะเวลาในการใช้สิทธิ์ 5 ปี
เงื่อนไขการเป็นสมาชิกแฟรนไชส์ ( Franchise Fee )** ค่าสิทธิแรกเข้าแฟรนไชส์ จำนวนเงิน 600,000.- (ไม่รวม Vat 7 %)
** ค่า Royalty fee
10 % ของยอดรายได้จากค่านายหน้า ( 1-6 เดือนแรกของการดำเนินธุรกิจ )
6% ของยอดรายได้จากค่านายหน้า ( ตั้งแต่เดือนที่ 7 ของการดำเนินธุรกิจ )
**ค่าบริหารจัดการ ( Management fee )
10,000.- ต่อเดือน ( ตั้งแต่เดือนที่ 7 ของการดำเนินธุรกิจ )
ระยะเวลาคืนทุน-
คุณสมบัติ
ผู้ลงทุน
1. มีความตั้งใจ และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ ตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยตนเอง
2. สามารถบริหารธุรกิจและจัดการงานบุคคล
3. จะต้องเข้าอบรมตามหลักสูตรมาตรฐาน ที่กำหนดทุกหลักสูตร
4. ทุ่มเทเวลา และ กำลังกาย-ใจ ในการดำเนินธุรกิจ
สิ่งที่แฟรนไชส์ซี่
จะได้รับ
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกสถานที่และออกแบบสำนักงาน
- ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางระบบบริหาร ระบบบัญชี
- ให้คำแนะนำและวางแผนทางด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์
- ช่วยเหลือและแนะนำเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคลากร
- อบรมเทคนิคในการบริหารและการขาย
- มีการอบรมเต็มหลักสูตร ณ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด
- ให้คำแนะนำในการควบคุมต้นทุน และค่าใช่จ่าย
- ให้คำปรึกษาสำหรับทุกด้านในการดำเนินธุรกิจ
- ให้การเยี่ยมเยียนสำนักงานไตรมาสละ 2-3 ครั้ง (เฉพาะช่วงปีแรก)
- ให้การเยี่ยมเยียนสำนักงานไตรมาสละ 1 ครั้ง (ในปีต่อไป)
- ในช่วง 1-3, 3-6 เดือนแรก การทำงานคู่ขนานระหว่าง แฟรนไชซี และฝ่ายบริการแฟรนไชส์ REALTY WORLD
- ฝ่ายข้อมูลและสารสนเทศ
- ฝ่ายบริหารกลาง
- ฝ่ายการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์
- ร่วมทำการตลาดและเปิดตัวกับแฟรนไชซีในแต่ละพื้นที่
- มีการประชาสัมพันธ์ในระดับประเทศเกี่ยวกับการร่วมธุรกิจแต่ละแฟรนไชซี
- ได้รับสิทธิประโยชน์ในการใช้บัตร REALTY WORLD เพื่อทำการตลาดให้กับลูกค้าเก่าและใหม่
- เพื่อสร้างประสานสัมพันธ์ (CRM) กับลูกค้าในการดำเนินการตลาด และโฆษณาประชาสัมพันธ์ 
อื่นๆ
จุดเด่น
ธุรกิจตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
ประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการไทยมานานกว่า 9 ปี ด้วยผลงานที่พิสูจน์ได้จริง ด้วยยอดขายสูงสุดกว่า 4 ปีซ้อน
บริษัทมั่นใจในการถ่ายโอนความเชี่ยวชาญของผู้ประกอบการ ที่มีมาตรฐานให้สามารถดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ สร้างผลกำไรในเวลาอันรวดเร็ว

โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเครือข่ายที่กว้างขวาง ช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้แข็งแกร่งและรวดเร็ว


ชื่อผู้ติดต่อฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารแฟรนไชส์
ที่อยู่Realty World Alliance Co.,Ltd.
โทร.02-818-0022 ต่อ 510 , 511 , 089-896-6904
โทรสาร-
อีเมล์Webmaster@realtyworld.co.th
franchise@realtyworld.co.th
เว็บไซต์www.realtyworld.co.th

วันอาทิตย์

รวยด้วยอสังหาบทที่ 7:ขายอสังหาออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยาก


          อ่านแล้วรวย  "รวยด้วยอสังหา" ในปัจจุบันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากมายรวมถึงแหล่งข้อมูลในการค้นหาบ้านซักหลัง จากที่ต้องขับรถตระเวนหาหรือติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ช่องทางหนึ่งในการซื้อหรือขายบ้านที่รวดเร็ว และสะดวกที่สุดได้แก่การใช้บริการเว็บไซต์ที่ให้บริการเป็นตัวแทนขายบ้าน หรือให้ผู้ขายประกาศขายบ้านออนไลน์บนเว็บ ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้บริการนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่น และเพิ่มผลกำไรได้มากกว่าจากการที่ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับนายหน้าซื้อขายบ้าน รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้นกว่าในอดีต อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ที่ให้บริการประกาศซื้อขายได้เองโดยเจ้าของบ้าน มักจะไม่มีบริการอื่นๆที่นายหน้าซื้อขายอสังหาในท้องถิ่นให้กับลูกค้าของตนเอง เช่นการติดต่อรวมถึงการต่อรองกับผู้ซื้อ การประเมินราคาบ้านก่อนขาย หรือการลงโฆษณาตามแหล่งต่างๆ ดังนั้นการซื้อขายผ่านนายหน้าท้องถิ่นก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายรวมถึงต้องการความรวดเร็วในการปิดการขาย
จะเห็นได้ว่าการขายบ้านออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆมีข้อดีอยู่มากมาย ดังนั้นเราจะมาดูถึงเทคนิค และเกร็ดต่างๆในการที่จะขายบ้านออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถขายบ้านได้ตามความต้องการของเราดังนี้

1. ค้นหาเว็บไซต์

    เพื่อทำการประกาศขายบ้าน คอนโด หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีอยู่มากมายโดยเราสามารถหาได้จากแหล่งต่างๆ เช่น นิตยสารเกี่ยวกับบ้าน ป้ายประกาศ หรือ Search Engine ต่างๆตัวอย่างเช่น www.google.comwww.yahoo.comwww.msn.com เป็นต้นโดยใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องที่ผู้ซื้อใช้ในการค้นหาเช่น บ้าน คอนโด ที่ตรงกับอสังหาริมทรัพย์ที่เราต้องการขาย เมื่อได้รายชื่อเว็บไซต์แล้วเราสามารถเลือกเว็บที่เหมาะสมได้โดยเข้าไปดูประกาศที่มีอยู่ภายในเว็บไซต์ว่ามีการแสดงผลอย่างไร มีจำนวนรูปภาพที่สามารถแสดงได้จำนวนเท่าไร รวมไปถึงความชัดเจนและความสวยงามในการแสดงรูปภาพ เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถดึงความสนใจของผู้ซื้อให้เข้ามาดูประกาศของเรา อีกทั้งระยะเวลาในการลงประกาศซึ่งบางเว็บไซต์จะมีระยะเวลาจำกัดในการลงประกาศในแต่ละครั้ง นอกจากนั้นยังต้องดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการลงประกาศซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเว็บไซต์ที่เป็นของตัวแทนซื้อขาย เราอาจต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่สมควรจะถูกกว่าการให้บริการตัวแทนซื้อขายแบบปกติเนื่องจากมีต้นทุนที่ลดลงจากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่มีต้นทุนต่ำ

2. ลงประกาศที่ดึงดูดความสนใจผู้ซื้อ

    ให้ระลึกไว้เสมอว่าเรากำลังแข่งกับผู้ขายจำนวนมากบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายทำให้มีโอกาสในการเลือกมากขึ้น ดังนั้นการลงประกาศที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการขายของเราให้ได้ผลตามต้องการ เพื่อให้ผู้ซื้อที่สนใจเริ่มติดต่อเราเพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งทำได้โดยการให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้ออย่างครบถ้วน โดยผู้ซื้อและค้นหาบ้าน หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็น คอนโด หอพัก แมนชั่น ต้องการทราบหลักๆได้แก่ ราคา สถานที่ และจำนวนห้องซึ่งบอกได้ถึงลักษณะของที่พักอาศัยนั้นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

วันเสาร์

รวยด้วยอสังหา บทที่ 6: การเลือกซื้อที่ดินตามหลักฮวงจุ้ย

อ่านแล้วรวย แนะนำศาสตร์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการลงทุนที่ดิน/อสังหาริมทรัพย์
การ เลือกซื้อทำเลรุ่งเรือง  


     ตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยนั้น เวลาเราจะเลือกซื้อที่ดินและอาคารนั้นจะมีหลักดังนี้ เมื่อเราอยู่ในตำแหน่งชัยภูมิของบ้านหรือที่ดินที่เราจะซื้อ ให้เรามองจากในบ้านหรือที่ดินออกไป จะมีตำแหน่งที่เรียกกันในภาษาจีนดังนี้
ฝั่ง ซ้ายมือ
เรียก ว่า
แช เล้ง
แปล ว่า
มังกร เขียว
ฝั่ง ขวามือ
เรียก ว่า
แปะ โฮ่ว
แปล ว่า
เสือ ขาว
ด้าน หลังเรา
เรียก ว่า
โอ่ วกุ่ย
แปล ว่า
เต่า ดำ
หน้า บ้าน
เรียก ว่า
อู่ เฉียะ
แปล ว่า
หงส์ แดง
ดังจะมีรูปภาพประกอบดังต่อไปนี้
ฮวงจุ้ย
ความหมายของมังกรเขียว คือ อ่านได้ว่า ผู้ชาย พลังของฝ่ายชาย คือ ความเคลื่อนไหว การออกทำงานของฝ่ายชาย หรือพลังอำนาจของฝ่ายชาย
ความหมายของเสือขาว คือ อ่านได้ว่า ผู้หญิง พลังของฝ่ายหญิง หรือบริวาร ภรรยา คือ พลังที่สงบนิ่ง ตลอดจนจะบ่งบอกถึงอำนาจของฝ่ายหญิง
ความหมายของเต่าดำ คือ อ่านได้ว่า ผู้ให้การสนับสนุน ผู้ให้ที่คอยค้ำชูช่วยเหลือ พลังที่คอยหนุนส่งเรา
ความหมายของหงส์แดง คือ อ่านได้ว่า โอกาสของการแสวงหา เงินทอง อำนาจ วาสนา ผลกำไรตอบแทน
     ตามลักษณะของชัยภูมิที่ดีนั้นจะต้องมีบริวารเหล่านี้อยู่ แต่อย่าเพิ่งตกใจ ถ้าหากท่านเดินออกมาจากบ้านมองแล้วไม่พบบริวารตามหลักที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เพราะจริงๆแล้วการดูฮวงจุ้ย เขาต้องมองกันไกลเป็นกิโลเมตรครับ ผมมีข้อแนะนำอีกนิดนึง หลักที่สำคัญขอฮวงจุ้ยนั้น คือ ความสมดุลของสิ่งต่างๆ ถ้ามันเกิดความสมดุล พลังจะเดินเองตามธรรมชาติ แต่โดยทั่วไปแล้วนั้นจะให้เกิดความสมดุลนั้นยาก เพราะฮวงจุ้ยของ แต่ละคนจะขึ้นอยู่กับบุญวาสนาที่ทำกันมา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีไม่เท่ากัน
     ตัวผมเองจะขอเรียนให้ทราบกันเป็นเบื้องต้นไว้ก่อนเพื่อให้ทุกท่านได้ทำความ เข้าใจ ส่วนซินแสนั้นมีบทบาทเพียงแก้ให้ท่านเกิดความสมดุลขึ้น เพราะการแก้ฮวงจุ้ยนั้น ตัวของผู้อาศัยนั้นเป็นส่วนสำคัญ เพราะท่านจะต้องเป็นคนดี กตัญญูต่อบุพการี พลังถึงจะเดินดี
ลักษณะของฮวงจุ้ยที่ไม่สมบูรณ์จะแก้กันอย่างไรดี
ฮวงจุ้ย
ใน ลักษณะของฮวงจุ้ยที่ถูกบีบซ้ายขวาดังรูป คือตึกทางซ้ายและขวาขนาบเราทั้ง 2 ข้าง (ดังรูป) การแก้นั้นง่ายและประหยัด เพียงแต่ตั้งเสาติดธงหรือตั้งเสาให้สูงกว่าตึกทางซ้ายและขวาก็จะแก้ไขให้ ท่านดีขึ้นได้
ชัยภูมิที่ยังขาดความสมดุลและการตีความ
ฮวงจุ้ย
แบบ นี้ตำแหน่ง แชเล้ง หรือ มังกรเขียว สูงกว่าประธานคือ ตัวเรา อ่านได้ว่าจะไม่สามารถควบคุมลูกน้องได้ ลูกน้องจะมาเป็นใหญ่กว่าตัวเรา นานไปลูกน้องจะกินตำแหน่งใหญ่กว่าเรา อันนี้จะรวมไปถึงลูกหลานด้วย ลูกหลานที่เป็นชายจะไม่เชื่อฟังเราและจ้องที่จะฮุบกิจการของเรา
ฮวงจุ้ย
แบบ นี้ตำแหน่งของแปะโฮ่ว หรือ เสือขาว สูงกว่าประธาน คือตัวเรา อ่านได้ว่า ผู้หญิงหรือลูกน้อง จะเป็นใหญ่ อ่านได้ในแบบเดียวกันกับด้านขวา สูงกว่าตัวเรานั่นแหละครับ แต่จะไม่เหมือนกันตรงที่เปลี่ยนจากชายเป็นหญิง
ใน ลักษณะนี้คือ เสือขาว สูงกว่ามังกรเขียว จะอ่านได้ว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะมีอำนาจมากกว่าผู้ชาย ตำแหน่งหน้าที่การงานจะสูงกว่า และบริวารที่เป็นสุภาพสตรีจะทำงานได้เด่นกว่าผู้ชาย

วันอังคาร

รวยอสังหา บทที่ 5: ระยะร่น ระยะเว้น ของการก่อสร้างอาคารบนที่ดิน

             รวยด้วยอสังหา  หลายคนคงรวยง่ายๆเมื่อหลายปีก่อน  ซื้อ ถือเก็บ ขายเอากำไร  แต่ในปัจจุบัน  ถ้ามีความรู้และเทคนิกมาก  โอกาสที่จะทำกำไรเยอะๆ ก็มีมากกว่าคนที่ไม่มีความรู้แน่ๆ  และบางครั้งการซื้อโดยมีความรู้ไม่เพียงพอ  ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราขาดทุนได้   ความรู้ทางเทคนิก หรือกฏหมายเกี่ยวกับแนวอาคาร/ระยะร่นของอาคาร  เป็นยังไง  ลองมาดูกันครับ
ฏกระทรวงฉบับที่ 5 ( พ.ศ.2543 )ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ในส่วนที่เกี่ยวกับแนวอาคาร
หมวด 4 แนวอาคารและระยะต่าง ๆ ของอาคาร 
ข้อ 40 การก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารหรือส่วนของอาคารจะต้องไม่ล้ำเข้าไปในที่สาธารณะ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่สาธารณะนั้น
ข้อ 41 อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้ถนนสาธารณะที่มีความกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนสาธารณะอย่างน้อย 3 เมตร
อาคารที่สูงเกินสองชั้นหรือเกิน 8 เมตร ห้องแถว ตึกแถว บ้านแถว อาคารพาณิชย์ โรงงาน อาคารสาธารณะ ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย หรือคลังสินค้า ที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้ถนนสาธารณะ
(1) ถ้าถนนสาธารณะนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนสาธารณะอย่างน้อย 6 เมตร
(2) ถ้าถนนสาธารณะนั้นมีความกว้างตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะอย่างน้อย 1 ใน 10 ของความกว้างของถนนสาธารณะ
(3) ถ้าถนนสาธารณะนั้นมีความกว้างเกิน 20 เมตรขึ้นไป ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะอย่างน้อย 2 เมตร

ข้อ 42 อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้แหล่งน้ำสาธารณะ เช่น แม่น้ำ คู คลอง ลำราง หรือลำกระโดง ถ้าแหล่งน้ำสาธารณะนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหล่งน้ำสาธารณะนั้นไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่ถ้าแหล่งน้ำสาธารณะนั้นมีความกว้างตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป ต้องร่นแนวอาคารให้ห่างจากเขตแหล่งน้ำสาธารณะนั้นไม่น้อยกว่า 6 เมตร
สำหรับอาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงใกล้แหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่

วันจันทร์

รวยอสังหา:บทที่ 4 การรังวัด แบ่งแยกโฉนด วิธีการ และ ค่าใช้จ่ายที่เกิด ณ สำนักงานที่ดิน

 สิ่งที่เจ้าของที่ดินควรทราบ
  1. ที่ดินที่ครอบครองอยู่มีหลักฐานอะไร ให้นำหลักฐานที่มีไปประกอบการยื่นคำขอ รังวัดที่ดิน
  2. ที่ดินตั้งอยู่ หมู่ที่เท่าใด ตำบล อำเภอ อะไร
  3. เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นผู้ใดบ้าง ติดที่สาธารณประโยชน์หรือไม่
  4. สภาพที่ดินเป็นอย่างไร เช่น ที่นา ที่สวน ที่ไร่ ที่อยู่อาศัย
การยื่นคำขอรังวัดที่ดิน
           ยื่นที่สำนักงานที่ดินจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา หรือสำนักงานที่ดินอำเภอที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ คือ
            โฉนดที่ดิน ติดต่อที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ที่ที่ดินนั้น ตั้งอยู่
            หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ติดต่อที่สำนักงานที่ดินอำเภอที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ เว้นแต่ ได้มีการยกเลิกอำนาจนายอำเภอ ให้ติดต่อที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่
หลักฐานประกอบการขอรังวัด แบ่งแยก หรือสอบเขตโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
  • บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล (ถ้ามี)
  • โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
หลักฐานประกอบการขอรังวัดรวมโฉนดที่ดิน
  • บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)
  • โฉนดที่ดินที่จะขอรวม ต้องมีลักษณะดังนี้
    ( 1 ) ต้องเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทเดียวกัน เว้นแต่ โฉนดแผนที่ กับโฉนดที่ดินให้รวมกันได้
    ( 2 ) ต้องมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในโฉนดที่ดินเหมือนกันทุกฉบับและต้องยังมีชีวิตอยู่ทุกคน
    ( 3 ) ต้องเป็นที่ดินติดต่อผืนเดียวกัน ในจังหวัดและสำนักงานที่ดินเดียวกัน

    ขั้นตอนการรังวัด แบ่งแยก รวม สอบเขตที่ดิน 
  1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
  2. รับคำขอสอบสวน ชำระเงินค่าธรรมเนียมคำขอ
  3. ส่งฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดวันทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด กำหนดเงินมัดจำรังวัด
  4. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หนังสือแจ้งข้างเคียง
  5. รับหนังสือแจ้งข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัด รับหลักเขตที่ดิน
  6. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัดตามวันที่กำหนดไว้
  7. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่ในโฉนดที่ดิน
  8. ส่งเรื่องรังวัดคืนฝ่ายทะเบียน เรียกผู้ขอมาจดทะเบียน
  9. สอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
  10. ตรวจอายัด
  11. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าโฉนด          
  12. แก้รายการทะเบียน และจดทะเบียนแบ่งแยก 
  13. สร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
  14. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตรา แจกโฉนดที่แบ่งแยก
    ขั้นตอนการขอแบ่งแยกตรวจสอบเนื้อที่ และรวมหนังสือรับรองการทำประโยชน์
  1. เจ้าของที่ดินนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเอกสารต่าง  ๆ ไปยื่นคำขอ
  2. ให้ถ้อยคำในการนัดรังวัด เพื่อ
-  กำหนดวันทำการรังวัด
- กำหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัด
- กำหนดเจ้าหน้าที่และสถานที่นัดพบ
  1. รับเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดและปักหลัก จนเสร็จการ
  2. ลงนามในเอกสารต่าง ๆ
  3. รอรับหนังสือแจ้งให้ไปดำเนินการจดทะเบียน ฯ ล ฯ
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรังวัดหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และโฉนดที่ดิน

วันเสาร์

รวยอสังหา บทที่ 3:เทคนิกการเลือกซื้อที่ดิน

เทคนิคการเลือกซื้อที่ดิน

เทคนิคการเลือกซื้อ ที่ดินต้องดูอะไรกันบ้าง

ควรตรวจสอบหน่วยราชการที่เกี่ยว ข้อง เช่นกรมที่ดินหรือที่ทำการเขต เพื่อสอบถามโฉนด ขนาดที่แท้จริงของที่ดินและเจ้าของที่ดินเดิม หรือความมีอยู่จริงของโฉนดที่ดิน ที่ทำการจังหวัด, กรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ เพื่อสอบถามเขตห้ามก่อสร้าง เขตพักอาศัย การตัดถนน การทางพิเศษ เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวของทางด่วน กรมทางหลวง เพื่อสอบถามแนวห้ามก่อสร้างจากแนวถนนหลวงหรือเรื่องการตัดถนน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อสอบถามแนวสายไฟฟ้าแรงสูงขนานใหญ่ผ่าน กรมการบินพาณิชย์ เพื่อสอบถามสิ่งก่อสร้างไปบังคลื่นวิทยุ ในส่วนอาคารสูงที่เกิน 15 เมตรขึ้นไป
การตรวจสอบประวัติที่ดิน ว่าที่ดินเดิมเคยเป็นสระน้ำหรือถูกขุดหน้าดินเอาไปใช้หรือไม่ เพราะดินที่ถมลงไปใหม่นั้นจะต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าเนื้อดินจะแน่นและไม่ ทรุดตัว ก่อนปลูกบ้านควรตรวจดูที่ดินว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัดจนเหลือแต่ตอใต้ ดิน รวมถึงรากแก้วขนาดใหญ่หรือเปล่า เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นบ่อเกิดของปลวกที่จะมากัดกินบ้านเราในภายหลัง
สภาพแวดล้อมโดยรอบที่ดิน เช่น โรงงาน โรงพยาบาล โรงเรียน หรือวัด
การเลือกที่ดินแถบใกล้ชายทะเล เช่น แถวสมุทรปราการ สมุทรสาคร ควรคำนึงถึงความชุ่มน้ำของเนื้อดิน อันจะมีผลต่อการเลื่อนไหลของเนื้อดินข้างใต้ หรือดินทรุด จะทำให้ต้องใช้เข็มที่ตอกเป็นฐานรากมากกว่าปกติ และมีขนาดใหญ่กว่าบ้านโดยทั่วไปถ้าไม่จำเป็นอย่าเลือกพื้นที่ดินที่เป็นชาย ธง ควรเลือกที่ดิน ที่มีขนาดความกว้างยาวของที่ดินเหมาะสมต่อการปลูกสร้าง
ก่อนการก่อสร้างบ้านจะต้องมีการปรับพื้นที่ดินให้มีความเหมาะสมกับการก่อ สร้างบ้าน โดยการถมและขุดหรือบางทีอาจจะใช้ทั้งการถมและการขุดไปด้วยกัน เช่น การขุดเพื่อทำสระน้ำ สระว่ายน้ำ แล้วนำที่ดินที่เหลือจากการขุดไปถมในส่วนที่จะทำการก่อสร้างบ้านให้สูงขึ้น เป็นเนิน เป็นต้น
การถม (เพื่อการสร้างบ้าน) เพื่อปรับความสูงของดินในพื้นที่ก่อสร้างให้สูงขึ้น อาจสูงเท่ากับระดับถนนภายนอกหรือสูงกว่าระดับถนน 0.50-1.00 เมตร ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงระดับการท่วมของน้ำ ระดับถนน และความสวยงามของตัวอาคาร บ้านเรือน
การขุด (เพื่อการสร้างบ้าน) ถ้ามีการขุดระดับต่ำกว่า 2.50 เมตร เพื่อทำห้องใต้ดิน ทำสระว่ายน้ำ หรือถังเก็บน้ำใต้ดิน จะใช้วิธีตอกเข็มไม้ยาวตลอดแนวการขุดเป็นพืดเพื่อกันดินถล่ม หรือขุดดินปรับเป็นแนวเอียง ถ้าดินมีความเหนียวพอ ก็ไม่ต้องใช้เข็มไม้ตอก ถ้ามีการขุดระดับลึก 5.00 เมตร จะแพงเกินไป เพราะจะต้องใช้แผ่นเหล็ก (SHEET PILE) ตอกเป็นแนวกันดินถล่ม และใช้เครื่องตอกที่เป็นเครื่องกลซึ่งมีราคาแพงมา

วันพุธ

รวยด้วยแฟรนไชส์อสังหา 2


โทเทิ่ล ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยทีมงานซึ่งมีความรู้และประสบการณ์การทำงานที่ยาวนาน พร้อมเป็นที่ปรึกษาและเป็นฐานข้อมูลให้กับลูกค้าทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ลักษณะกิจการตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
ชื่อธุรกิจ (ไทย)โทเทิ่ล แอสเสท แฟรนไชส์
ชื่อธุรกิจ (อังกฤษ)Total Assets
ความเป็นมา
บ.โทเทิ่ล แอสเสท แฟรนไชส์ จก. เป็นหนึ่งในผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการรับฝากซื้อ – ฝากขาย –ฝากเช่า อสังหาริมทรัพย์ ทุกประเภท โดยทีมงานมืออาชีพ ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ที่ยาวนาน ได้สร้างชื่อเสียงและพัฒนาธุรกิจให้เติบโดอย่างต่อเนื่อง ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
โดยมุ่งเน้นที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้ใช้บริการ ซื้อ-ขาย –เช่า อสังหาริมทรัพย์ โทเทิ่ล ให้บริการด้วยระบบเครือข่าย การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร พร้อมให้ความช่วยเหลือและรักษาผลประโยชน์แก่ทั้งผู้ซื้อผู้ขายด้วยจรรยาบรรณ และความเป็นมืออาทีพอย่างแท้จริง

ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น เราพร้อมร่วมสร้างธุรกิจที่เป็นสื่อกลางให้เกิดการซื้อขายในรูปแบบใหม่ๆที่รองรับการเปลี่ยนแปลง ของวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐาน สร้างคุณค่าและความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน
ลักษณะสินค้า
และบริการ
โทเทิ่ล ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยทีมงานซึ่งมีความรู้และประสบการณ์การทำงานที่ยาวนาน พร้อมเป็นที่ปรึกษาและเป็นฐานข้อมูลให้กับลูกค้าทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
  • บริการช่วยค้นหาบ้าน – อาคาร – ที่ดิน โทเทิ่ล เป็นตัวแทนในการค้นหา ตรวจสอบบ้าน-อาคาร ที่ดิน และเป็นที่ปรึกษาเรื่องการซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ในทุกด้าน ด้วยฐานข้อมูลที่ทันสมัย
  • บริการตัวแทน ซื้อ- ขาย- เช่า อสังหาริมทรัพย์ด้วยความชำนาญ โทเทิ่ล บริการรับฝาก ซื้อ – ขาย- เช่า บ้าน อาคาร ที่ดิน ดูแลการขาย การเจรจาต่อรอง สิทธิประโยชน์และการจัดทำนิติกรรมต่างๆ
  • บริการจัดการสินเชื่อที่อยู่อาศัย บริการพิเศษด้วยการให้คำปรึกษาและจัดหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้กับลูกค้า ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด กู้ได้สูงสุด
  • บริการดูแลลูกค้าหลังการขาย TOTAL พร้อมด้วยฝ่ายบริการดูแล ลูกค้าหลังการขาย แก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง เป็นที่ปรึกษาการปรับปรุงซ่อมแซม ต่อเติมอาคาร ออกแบบตกแต่ง และส่วนลดพิเศษ อาทิติดตั้ง แอร์ ผ่านม่าน วอลเปเปอร์
  • บริการฐานข้อมูล (Data Center) จากตัวแทนของโทเทิ่ล ซึ่งมีความชำนาญในแต่ละพื้นที่ และการค้นหาข้อมูลผ่านทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ทันสมัย 
ประเทศThailand  Thailand
ค่าแฟรนไชส์150,000 บาท
จำนวนสาขา2 สาขา
รายละเอียดสาขา-
นโยบาย
การขยายสาขา
ขายแฟรนไชส์ กรุงเทพ - ปริมณฑล 1 เขต 1 สาขา, ต่างจังหวัด 1 จังหวัด 1 สาขา
การลงทุนมี 2 แบบ
  1. ค่าแฟรนไชส์นิติบุคคล 150,000 บาทพร้อม Start Up kits ระยะเวลาใช้สิทธิ์ 5 ปี
  2. แฟรนไชส์รายบุคคล 4,500 บาท 
ระยะเวลาคืนทุน-
คุณสมบัติ
ผู้ลงทุน
  1. มีความสนใจและมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
  2. มีเวลา และความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ
  3. รักงานบริการงานและสามารถจัดการงานบุคคลได้ 
สิ่งที่แฟรนไชส์ซี่
จะได้รับ
  1. ลิขสิทธิ์ในเขตพื้นที่ รวมถึงให้คำแนะนำในการเลือกสถานที่ และออกแบบสำนักงาน
  2. ได้รับการถ่ายทอดระบบธุรกิจ การค้าอสังหาริมทรัพย์ ที่มีรายได้ไม่จำกัด
  3. ได้รับการอบรมผ่านคู่มือแฟรนไชส์ แนวทางในการดำเนินธุรกิจ และเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
  4. ชุด Start Up kits พร้อม CD แบบฟอร์ม เอกสาร สัญญาต่างๆ
  5. อบรมตัวแทนขาย “ความรู้ก่อนสู่ภาคสนาม” จำนวน 5 ท่าน
  6. ใช้ข้อมูลเครือข่ายธุรกิจ และทรัพย์สินส่วนกลางผ่าน www.totalassets.co.th
  7. เข้าร่วมโปรแกรมสนับสนุนการโฆษณา ประชาสัมพันธ์
  8. ร่วมโปรแกรมทางการตลาดออกบูธ และร่วมงาน Recruit ฟรี
  9. ทีมที่ปรึกษาตลอดอายุสัญญา 
อื่นๆ
จุดเด่นของธุรกิจตัวแทนนายหน้า รับฝากซื้อ-ขาย-เช่า อสังหาริมทรัพย์ คือ วงเงินการลงทุนไม่มาก แต่สามารถสร้างรายได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ทำให้คืนทุนได้เร็วและผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆ


ชื่อผู้ติดต่อฝ่ายบริหารพัฒนาแฟรนไชส์
ที่อยู่บ.โทเทิ่ล แอสเสท แฟรนไชส์ จก.
เลขที่ 76/32-36 หลักสี่สแควร์ ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.10220
โทร.0-2552-2234
โทรสาร0-2552-8580
อีเมล์total@totalassets.co.th
เว็บไซต์www.totalassets.co.th