อ่านแล้วรวย "รวยด้วยอสังหา" ในปัจจุบันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากมายรวมถึงแหล่งข้อมูลในการค้นหาบ้านซักหลัง จากที่ต้องขับรถตระเวนหาหรือติดต่อนายหน้าเพื่อหาบ้านที่ตรงกับความต้องการของตัวเอง ช่องทางหนึ่งในการซื้อหรือขายบ้านที่รวดเร็ว และสะดวกที่สุดได้แก่การใช้บริการเว็บไซต์ที่ให้บริการเป็นตัวแทนขายบ้าน หรือให้ผู้ขายประกาศขายบ้านออนไลน์บนเว็บ ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้บริการนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่น และเพิ่มผลกำไรได้มากกว่าจากการที่ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับนายหน้าซื้อขายบ้าน รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงผู้ซื้อจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้นกว่าในอดีต อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ที่ให้บริการประกาศซื้อขายได้เองโดยเจ้าของบ้าน มักจะไม่มีบริการอื่นๆที่นายหน้าซื้อขายอสังหาในท้องถิ่นให้กับลูกค้าของตนเอง เช่นการติดต่อรวมถึงการต่อรองกับผู้ซื้อ การประเมินราคาบ้านก่อนขาย หรือการลงโฆษณาตามแหล่งต่างๆ ดังนั้นการซื้อขายผ่านนายหน้าท้องถิ่นก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายรวมถึงต้องการความรวดเร็วในการปิดการขาย
จะเห็นได้ว่าการขายบ้านออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆมีข้อดีอยู่มากมาย ดังนั้นเราจะมาดูถึงเทคนิค และเกร็ดต่างๆในการที่จะขายบ้านออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถขายบ้านได้ตามความต้องการของเราดังนี้
1. ค้นหาเว็บไซต์
เพื่อทำการประกาศขายบ้าน คอนโด หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีอยู่มากมายโดยเราสามารถหาได้จากแหล่งต่างๆ เช่น นิตยสารเกี่ยวกับบ้าน ป้ายประกาศ หรือ Search Engine ต่างๆตัวอย่างเช่น www.google.com, www.yahoo.com, www.msn.com เป็นต้นโดยใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้องที่ผู้ซื้อใช้ในการค้นหาเช่น บ้าน คอนโด ที่ตรงกับอสังหาริมทรัพย์ที่เราต้องการขาย เมื่อได้รายชื่อเว็บไซต์แล้วเราสามารถเลือกเว็บที่เหมาะสมได้โดยเข้าไปดูประกาศที่มีอยู่ภายในเว็บไซต์ว่ามีการแสดงผลอย่างไร มีจำนวนรูปภาพที่สามารถแสดงได้จำนวนเท่าไร รวมไปถึงความชัดเจนและความสวยงามในการแสดงรูปภาพ เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถดึงความสนใจของผู้ซื้อให้เข้ามาดูประกาศของเรา อีกทั้งระยะเวลาในการลงประกาศซึ่งบางเว็บไซต์จะมีระยะเวลาจำกัดในการลงประกาศในแต่ละครั้ง นอกจากนั้นยังต้องดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการลงประกาศซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป สำหรับเว็บไซต์ที่เป็นของตัวแทนซื้อขาย เราอาจต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้บริการที่สมควรจะถูกกว่าการให้บริการตัวแทนซื้อขายแบบปกติเนื่องจากมีต้นทุนที่ลดลงจากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่มีต้นทุนต่ำ
2. ลงประกาศที่ดึงดูดความสนใจผู้ซื้อ
ให้ระลึกไว้เสมอว่าเรากำลังแข่งกับผู้ขายจำนวนมากบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้ง่ายทำให้มีโอกาสในการเลือกมากขึ้น ดังนั้นการลงประกาศที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการขายของเราให้ได้ผลตามต้องการ เพื่อให้ผู้ซื้อที่สนใจเริ่มติดต่อเราเพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งทำได้โดยการให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ซื้ออย่างครบถ้วน โดยผู้ซื้อและค้นหาบ้าน หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็น คอนโด หอพัก แมนชั่น ต้องการทราบหลักๆได้แก่ ราคา สถานที่ และจำนวนห้องซึ่งบอกได้ถึงลักษณะของที่พักอาศัยนั้นๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สถานที่ เนื่องจากการลงประกาศในเว็บไซต์ไม่ได้จำกัดกลุ่มของผู้ซื้อเหมือนกันติดป้ายประกาศตามท้องถนนหรืออาคารซึ่งผู้ที่พบเห็นมักเป็นคนในละแวกนั้นหรือตั้งใจที่จะเข้าไปค้นหาที่อยู่อาศัยในแหล่งนั้นๆ ในทางกลับกันการลงประกาศในเว็บไซต์มีกลุ่มผู้ซื้อที่มาจากหลายๆสถานที่ทั่วประเทศหรืออาจจะทั่วโลกในกรณีที่เป็นเว็บที่ให้บริการหลายภาษา ดังนั้นการระบุข้อมูลสถานที่อย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็นเช่นนอกเหนือจากจังหวัด เขตหรืออำเภอแล้ว เราอาจระบุละเอียดลงไปอีกในระดับ ถนน ซอย หรือสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นอาจมีการให้แผนที่ประกอบ เพื่อให้ผู้ซื้อทราบได้ทันทีว่าบ้านที่ประกาศขายอยู่ในขอบเขตที่ผู้ซื้อต้องการหรือไม่อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นหากผู้ซื้อสนใจยังสามารถเข้าไปเพื่อยังสถานที่จริงได้อย่างสะดวก
ราคา ผู้ซื้อมักมีงบประมาณที่ต้องการอยู่ในใจอยู่แล้วในระดับนึง ดังนั้นการให้ข้อมูลราคาที่เสนอขายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจ รวมถึงดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้ถ้าเป็นราคาที่ถูกต้องเหมาะสม ถ้าไม่มีการระบุราคาผู้ซื้อจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับผู้ขายก่อนดังนั้นถ้าเป็นบ้านหรือสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วไปผู้ซื้ออาจพิจารณาประกาศอื่นๆที่มีการระบุราคาขั้นต้นก่อนที่จะตัดสินใจติดต่อไปยังผู้ขาย
จำนวนห้อง และขนาดของบ้าน ทั้งจำนวนห้องทั้งหมด และจำนวนห้องนอน และห้องน้ำเป็นสิ่งที่บอกถึงลักษณะของบ้านหรือที่พักอาศัยนั้นๆว่าเหมาะสมกับความต้องการของผู้ซื้อหรือไม่ การระบุข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนห้องรวมถึงขนาดของบ้านทำให้ผู้ซื้อสามารถรู้ถึงแบบแปลนของบ้านอย่างคร่าวๆโดยไม่ต้องไปดูถึงสถานที่จริง นอกจากนั้นขนาดของบ้านยังทำให้ผู้ซื้อทราบว่าราคาของบ้านที่เสนอมีความเหมาะสมกับบ้านนั้นๆหรือไม่จากราคาประเมินต่อพื้นที่ซึ่งผู้ซื้อสามารถหาข้อมูลได้
รูปภาพบ้าน การใส่รูปภาพยิ่งมากยิ่งดี เนื่องจากทำให้ผู้ซื้อสามารถเห็นถึงบ้านในมุมต่างๆได้อย่างละเอียดโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสถานที่จริง รูปภาพที่ชัดเจนและสวยงามสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้มากกว่าข้อความเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามรูปภาพที่ใช้ควรเป็นรูปภาพที่เน้นถึงส่วนที่สำคัญของบ้านเช่นภาพบ้านทั้งหลัง ห้องนอน ห้องน้ำเป็นต้น การใช้รูปภาพที่ไม่ชัดเจนเช่นบันไดบ้าน ระเบียงบ้านที่ผู้ซื้อดูแล้วไม่สามารถเห็นลักษณะของบ้านได้อย่างชัดเจนนอกจากจะไม่เป็นที่สนใจแล้วยังทำให้หน้าเว็บเพจโหลดได้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงขนาดของภาพที่ไม่ควรใหญ่จนเกินไปซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่เข้ามาดูต้องคอยหน้าเว็บนานมากขึ้น
สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับนอกเหนือจากมูลค่าของบ้านที่ขายจริงๆ ซึ่งผู้ซื้อเองอาจจะไม่ได้นึกถึง การระบุสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆทำให้มุมมองของมูลค่าของสินทรัพย์นั้นๆเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการระบุอาจเป็นข้อความหรือรูปภาพที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมต่างๆเช่น นอกจากการให้รายละเอียดของห้องในคอนโดที่ต้องการขาย การระบุลักษณะหรือใส่รูปภาพของสระว่ายน้ำ หรือฟิตเนสที่ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิในการใช้งานเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับห้องมากกว่าลักษณะของห้องเพียงอย่างเดียว
รายละเอียดของเพื่อนบ้านหรือชุมชนที่อยู่อาศัย เป็นส่วนเพิ่มเติมซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อทราบถึงลักษณะของชุมชนที่จะต้องเข้าไปใช้ชีวิตหลังจากทำการซื้อบ้านจากเราแล้ว ตัวอย่างเช่นการอธิบายถึงผู้ที่ทำการบริหารคอนโด นิติบุคคลว่ามีการทำงานที่โปร่งใส เชื่อถือได้ เพื่อนบ้านไม่มีผู้ที่สร้างความเดือนร้อนให้กับส่วนรวมเป็นต้น นอกจากนั้นอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับบอร์ดหรือเว็บไซต์ของชุมชนนั้นๆถ้ามี เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้
เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องใช้ในการติดต่อถ้าผู้ซื้อสนใจประกาศของเรา
หัวข้อประกาศ นับเป็นเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อให้คลิกเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งอยู่ด้านใน โดยส่วนหัวข้อจะเป็นข้อความสั้นๆที่อธิบายถึงลักษณะสำคัญของบ้าน หรือสินทรัพย์ที่เราต้องการจะขาย สำหรับในส่วนนี้เราจะสามารถเขียนข้อความได้อย่างจำกัดดังนั้นควรคิดคำต่างๆให้ดีก่อนเขียนหัวข้อประกาศ โดยการมองในมุมของผู้ซื้อทีมีโอกาสเข้ามาพิจารณาสินทรัพย์ของเราว่ามีความต้องการและกำลังมองหาอะไรบ้างเช่น "บ้าน 2 ชั้น" หรือ "คอนโดลุมพินี" สถานที่ตั้งเช่น "มีนบุรี" หรือ "ปิ่นเกล้า" รวมทั้งจุดเด่นของบ้านเช่น "สระว่ายน้ำขนาดใหญ่" "ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว" อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจอาจจะไม่น่าสนใจสำหรับทุกคนเช่น "อยู่ติดทางด่วน" ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีเนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวก สำหรับบางคนอาจนึกถึงเสียงรถที่ดัง ฝุ่นควัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อไม่ต้องการเป็นต้น ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาคีเวิร์ดที่ใช้ให้ดี นอกจากนั้นคำที่ใช้ในหัวข้อประกาศยังส่งผลในการค้นหาจาก Search Engine ต่างๆซึ่งจะพูดถึงต่อไป
3. ตั้งราคาให้เหมาะสม
ราคาเป็นข้อมูลสำคัญอย่างหนึ่งที่คัดกรองผู้ซื้อที่เหมาะสม และมีความสามารถในการซื้อสินทรัพย์ที่เราต้องการจะขาย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขายบ้านใช้เวลานานมาจากการตั้งราคาที่สูงเกินไป ซึ่งถ้าเราต้องการที่จะขายบ้านออกไปได้ด้วยความรวดเร็วเราจำเป็นที่จะต้องตั้งราคาให้เหมาะสมในสายตาของผู้ซื้อ รวมถึงการลดราคาลงให้ต่ำกว่าเล็กน้อยในกรณีที่ต้องการขายอย่างเร่งด่วน สำหรับการตั้งราคาอย่างเหมาะสมโดยทั่วไปจะมีการตั้งราคาอยู่ 2 วิธีได้แก่ การตั้งราคาตามราคาตลาด และการตั้งตามราคาพื้นฐานหรือราคาประเมิน รวมถึงอาจใช้ทั้ง 2 แบบร่วมกันในการตั้งราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ความต้องการของเราเอง
การตั้งราคาโดยอ้างอิงราคาตลาด เราสามารถหาราคาที่เหมาะสมได้โดยสังเกตุและเปรียบเทียบราคากับบ้านที่มีการตั้งราคาขายกันตามท้องตลาด เช่น ป้ายประกาศขายบ้านละแวกเดียวกับบ้านของเราว่ามีราคาประมาณเท่าไหร่ หรือการเปรียบเทียบราคากับผู้ประกาศขายบ้านรายอื่นๆที่ประกาศขายในอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย รวมถึงผู้ซื้อเองก็มักจะเปรียบเทียบก่อนพิจารณาซื้อเช่นเดียวกันเนื่องจากสามารถหาข้อมูลมาเปรียบเทียบได้ง่ายจากเว็บไซต์ที่ให้บริการขายบ้านที่มีอยู่จำนวนมากเช่น www.homedd.com, www.realtyworld.co.th, www.taradasungha.com เป็นต้น ซึ่งการตั้งราคาตามราคาตลาดอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคาพื้นฐานของบ้านขึ้นกับปัจจัยต่างๆในขณะที่มีการขายบ้าน เช่น สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีอาจทำให้ราคาตลาดลดลง ในขณะที่ข่าวการสร้างรถไฟฟ้าใกล้บ้านอาจทำให้ราคาตลาดเพิ่มสูงขึ้นเป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องติดตามและตั้งราคาให้เหมาะสมอยู่เสมอ
การตั้งราคาโดยใช้ราคาพื้นฐาน เป็นการตั้งราคาโดยใช้การประเมินราคาตามคุณสมบัติของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆเช่น ขนาดและตำแหน่งของที่ดิน ขนาดของบ้าน เป็นต้น ซึ่งราคาประเมินยังมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อในกรณีที่ต้องทำการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในการนำมาซื้อบ้านของเรา โดยสถาบันการเงินมักจะให้กู้ยืมเงินไม่เกินราคาประเมินดังนั้นถ้าเราตั้งราคาสูงกว่าราคาประเมินมากเกินไปผู้ซื้ออาจไม่มีกำลังในการหาเงินมาเพื่อซื้อบ้านจากเราทำให้โอกาสในการปิดการขายให้รวดเร็วอาจทำได้ยากมากขึ้น สำหรับราคาประเมินเราสามารถหาได้โดยวิธีการต่างๆเช่น การใช้บริการของตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปซึ่งมักจะมีบริการประเมินราคาให้สำหรับลูกค้า หรือเว็บไซต์ที่ให้บริการประเมินราคาทางอินเทอร์เน็ตต่างๆ รวมไปถึงการค้าหาข้อมูลด้วยตนเองโดยใช้เลขที่โฉนดหรือเลขที่ดินจากเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ ราคาประเมินทรัพย์สินที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง และอาคารชุด ซึ่ง ราคาประเมิน = ราคาที่ดิน+ราคาสิ่งปลูกสร้าง - ค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง เมื่อเราได้ราคาทั้งราคาตลาดและราคาประเมินมาแล้วเราก็สามารถที่จะหาราคาที่เหมาะสมที่สามารถดึงดูดผู้ซื้อให้สนใจทรัพย์สินที่เราต้องการขาย โดยไม่เป็นการเอาเปรียบผู้ซื้อ และได้ผลตามที่เราต้องการซึ่งสามารถแข่งขันกับผู้ขายรายอื่นๆที่มีอยู่มากมายได้
4. ใช้ search engine ให้เป็นประโยชน์
การตั้งประกาศบนเว็บไซต์มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ซื้อสนใจ และเข้ามาดูรายละเอียดจนถึงติดต่อเราเพื่อดำเนินกระบวนการซื้อขายต่อไป ยิ่งมีผู้ซื้อเห็นประกาศมากเท่าไหร่ย่อมเปิดโอกาสให้มีการติดต่อเพื่อการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องหาทางให้ผู้ซื้อมีโอกาสที่จะเห็นประกาศของเรามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีที่มักจะทำกันคือการหาเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากหลายๆเว็บไซต์ และโพสต์ประกาศในหลายๆเว็บไซต์ อย่างไรก็ตามเรามักจะลืมใส่ใจรายละเอียดของประกาศของเรา ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลใน search engine ต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมืออันดับแรกสำหรับผู้ซื้อในการค้นหาบ้านผ่านทางอินเทอร์เน็ต
Search engine ที่เป็นที่นิยมต่างๆเช่น google.com, yahoo.com, sanook.com เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงประกาศของเราได้โดยตรงซึ่งเพิ่มโอกาสในการเจอประกาศนอกเหนือไปจากจำนวนของผู้ใช้งานภายในเว็บไซต์ซื้อขายหนึ่งๆ อย่างไรก็ตามการทำให้ประกาศของเราถูกพบโดย Search engine โดยเฉพาะหน้าแรกๆนั้นไม่ง่าย แต่วิธีการในการตั้งประกาศก็ไม่ยากเกินไปเมื่อเทียบกับการลงประกาศในหลายๆเว็บไซต์ โดยสิ่งที่เราควรคำนึงในการตั้งประกาศเพื่อให้ประกาศของเรามีโอกาสเจอใน search engine โดยผู้ใช้งานมีดังนี้
หัวข้อประกาศ เป็นส่วนที่สำคัญ นอกเหนือไปจากการดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อในเว็บไซต์แล้วยังส่งผลต่อการค้นหาของ search engine อีกด้วย ดังนั้นภายในหัวข้อประกาศจึงควรมีคำสำคัญที่ผู้ซื้อใช้ในการค้นหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเฉพาะเช่น ชื่อโครงการ หมู่บ้าน หรือลักษณะเฉพาะตัวของบ้านของเรา การที่มีคำเฉพาะเจาะจงทำให้รายชื่อเว็บที่มีคำดังกล่าวมีจำนวนน้อยกว่าคำทั่วๆไปเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่งผลให้อันดับของเราภายใน search engine มีโอกาสที่จะสูงกว่าด้วย
คีย์เวิร์ด (meta keyword) และคำอธิบาย (meta description) เป็นส่วนที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ประกาศสามารถใส่เนื้อหาในส่วนนี้ได้ ถึงแม้ว่าข้อความในส่วนนี้จะไม่ปรากฎให้ผู้ที่เข้ามาดูประกาศเห็นก็ตาม แต่ search engine ต่างๆจะใช้ข้อมูลในส่วนนี้เพื่อระบุคำในการค้นหาสำหรับแต่ละหน้าของเว็บไซต์ โดย meta keyword เป็นคำสำคัญต่างๆที่เราต้องการให้ค้นหาหน้าประกาศของเราเจอจากการค้นหาคำนั้นๆของผู้ซื้อ ซึ่งมักจะเป็นรูปแบบคำคั่นด้วย "," เช่น บ้านแลนด์ แอน เฮ้าส์,พระราม 2 เป็นต้น ส่วน meta description เป็นคำอธิบายซึ่งจะแสดงเมื่อหน้าของเราปรากฎใน search engine ซึ่งเราสามารถใส่ในรูปแบบประโยคยาวๆเช่น "ขายบ้าน 2 ชั้น แลนด์ แอน เฮ้าส์ โครงการ.... พระราม 2 ใกล้ทางด่วน.." เป็นต้น โดยเราควรใส่ข้อความที่มีคำสำคัญที่เราต้องการใช้ในการค้นหารวมอยู่ด้วย
จากเกร็ดข้อมูลต่างๆข้างต้นน่าจะทำให้ผลของการขายบ้านออนไลน์บนเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งไม่เป็นการยากสำหรับเราในการเอาใจใส่รายละเอียดเล็กน้อยซึ่งไม่ยุ่งยากในการนำไปใช้ เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดในการขาย สิ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอคือเราต้องนำเสนอคุณค่าที่ผู้ซื้อต้องการ นอกเหนือไปจากการขายบ้านเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามการขายออนไลน์เป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการขาย ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การขายให้สำเร็จยังต้องอาศัยวิธีการอื่นๆอีกมาก หวังว่าเกร็ดเล็กๆเหล่านี้จะช่วยให้เราทำการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น